Last updated: 2019-09-25 | 2130 Views |
หากพูดถึงแบคทีเรียแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ แต่จริงๆแล้วมีแบคทีเรียหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ อย่าง “แล็กโตบาซิลลัส” ที่อยู่ในโยเกิด นมเปรี้ยวที่หลายๆคนชื่นชอบ เป็นแบคทีเรียชนิดดีต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งยังมีแบคทีเรียอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อเรา ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย โดยแบคทีเรียบนตัวเรานั้นมีมากมายหลายล้านชนิด นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังวิจัยไม่หมด ยังไม่รู้ได้แน่ชัดว่าชนิดไหนมีผลต่อเราอย่างไร
ตัวอย่างแบรนด์ที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์
แล้วแบคทีเรีย ดีต่อผิวอย่างไร?
จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์หลายท่านให้ความเห็นตรงกันว่า ปกติแล้วเชื้อแบคทีเรียบนผิวจะมีความสมดุล คือแบคทีเรียทั้งดีและไม่ดีอยู่ในจำนวนที่ไม่ขนาดไม่เกิน จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆขึ้น แต่เมื่อเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะจากฝุ่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย การโดนรังสีจากแดดจัดๆ หรือแม้แต่การล้างหน้า ทั้งหมดนี้ อาจทำให้จำนวนของแบคทีเรียไม่สมดุลมีบางชนิดเยอะกว่าอีกชนิด ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง และก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา
Prebiotic – Probiotic สองคำที่คนมักสับสน
สำหรับในวงการเครื่องสำอางหลายคนคงจะได้เห็นหลายแบรนด์ชูคำว่า prebiotic และ probiotic มาโฆษณา ซึ่งสองคำนี้มีความแตกต่างกันคือ Probiotic หมายถึงเชื้อจุลชีพ หรือแบคทีเรีย ส่วนPrebiotic หมายถึง อาหารสำหรับแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งการเติมอาหารแทนการใช้เชื้อแบคทีเรียโดยตรงก็สามารถทำให้แบคทีเรียดีบนผิวเราเติมโตได้ดีและทำให้ผิวเกิดความสมดุลได้เช่นกัน
การนำแบคทีเรียมาใช้กับผิวจึงเปรียบเสมือนการนำส่วนที่ขาดมาเติม ไม่เหมือนการนำสารเคมีอื่นๆที่ไม่มีอยู่ในผิวมาเพิ่มเติมใส่ผิวของเรา การนำแบคทีเรียที่เป็นส่วนสำคัญของผิว มาเติมให้ผิวเกิดความสมดุล จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบของปัญหาผิวที่มีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่ง
ตัวอย่างสารสกัดที่ใช้แนวคิด Microbiome ปรับสมดุลผิวด้วยแบคทีเรีย
Black BeeOme™ น้ำผึ้งหมักจากผึ้งดำ
Dec 14, 2020
Jan 13, 2021
Dec 15, 2020
Jan 15, 2021